วันอังคารที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ภาษา C คืออะไร ???



ภาษาซี (C Programming Language)
 คือ ภาษาคอมพิวเตอร์ใช้สำหรับพัฒนาโปรแกรมทั่วไป ถูกพัฒนาครั้งแรกเพื่อใช้เป็นภาษาสำหรับพัฒนาระบบปฏิบัติการยูนิกซ์ ( Unix Opearating System) แทนภาษาแอสเซมบลี ซึ่งเป็นภาษาระดับต่ำที่สามารถกระทำในระบบฮาร์ดแวร์ได้ด้วยความรวดเร็ว แต่จุดอ่อนของภาษาแอซเซมบลีก็คือความยุ่งยากในการโปรแกรม ความเป็นเฉพาะตัว และความแตกต่างกันไปในแต่ละเครื่อง เดนนิส ริตชี (Dennis Ritchie) จึงได้คิดค้นพัฒนาภาษาใหม่นี้ขึ้นมาเมื่อประมาณต้นปี ค.ศ. 1970 โดยการรวบรวมเอาจุดเด่นของแต่ละภาษาระดับสูงผนวกเข้ากับภาษาระดับต่ำ เรียกชื่อว่า ภาษาซี 
          เมื่อภาษาซี ได้รับความนิยมมากขึ้น จึงมีผู้ผลิต compiler ภาษาซีออกมาแข่งขันกันมากมาย ทำให้เริ่มมีการใส่ลูกเล่นต่างๆ เพื่อดึงดูดใจผู้ซื้อ ทาง American National Standard Institute (ANSI) จึงตั้งข้อกำหนดมาตรฐานของภาษาซีขึ้น เรียกว่า ANSI C เพื่อคงมาตรฐานของภาษาไว้ไม่ให้เปลี่ยนแปลงไป
โครงสร้างของโปรแกรมภาษาซี และตัวอย่าง
          โปรแกรมในภาษาซีทุกโปรแกรมจะประกอบด้วยฟังก์ชันอย่างน้อย หนึ่งฟังก์ชัน คือ ฟังก์ชัน main โดยโปรแกรมภาษาซีจะเริ่มทำงานที่ฟังก์ชัน main ก่อน ในแต่ละฟังก์ชันจะประกอบด้วย
          1. Function Heading ประกอบด้วยชื่อฟังก์ชัน และอาจมีรายการของ argument (บางคนเรียก parameter) อยู่ในวงเล็บ
          2. Variable Declaration ส่วนประกาศตัวแปร สำหรับภาษาซี ตัวแปรหรือค่าคงที่ทุกตัว ที่ใช้ในโปรแกรมจะต้องมีการประกาศก่อนว่าจะใช้งานอย่างไร จะเก็บค่าในรูปแบบใดเช่น interger หรือ real number
          3. Compound Statements ส่วนของประโยคคำสั่งต่างๆ ซึ่งแบ่งเป็นประโยคเชิงซ้อน (compound statement) กับ ประโยคนิพจน์ (expression statment) โดยประโยคเชิงซ้อนจะอยู่ภายในวงเล็บปีกกาคู่หนึ่ง { และ } โดยในหนึ่งประโยคเชิงซ้อน จะมีประโยคนิพจน์ที่แยกจากกันด้วยเครื่องหมาย semicolon (;) หลายๆ ประโยครวมกัน และ อาจมีวงเล็บปีกกาใส่ประโยคเชิงซ้อนย่อยเข้าไปอีกได้




วันเสาร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

เผยผลสำรวจความเร็วอินเตอร์เน็ตไทย เร็วกว่าค่าเฉลี่ยโลก





 เผยผลสำรวจความเร็วอินเทอร์เน็ตของไทย มีความเร็วสูงกว่าค่าเฉลี่ยความเร็วอินเทอร์เน็ตของโลก และมีความเร็วเป็นอันดับ 2 ในกลุ่มประเทศอาเซียนรองจากสิงคโปร์
         สำหรับข้อมูลดังกล่าวรายงานผ่านแฟนเพจเฟชบุ๊ค ASEAN DNAพร้อมภาพอินโฟกราฟิกที่แสดงค่าเฉลี่ยความเร็วอินเทอร์เน็ตในกลุ่มประเทศอาเซียนกว่า 10 ประเทศ ส่วนผลการสำรวจครั้งนี้เป็นข้อมูลตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม-5 เมษายน 2557 พบว่าประเทศสิงคโปร์มีความเร็วอินเทอร์เน็ตเฉลี่ยอยู่ที่ 61.0 Mbps ตามมาด้วยประเทศไทยความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 17.7 Mbps และเวียดนามอยู่ที่ 13.1 Mbps แต่เมื่อเปรียบเทียบความเร็วอินเทอร์เน็ตกับประเทศอื่น ๆ ในโลก พบว่าประเทศไทยมีความเร็วอินเทอร์เน็ตสูงกว่าความเร็วเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ 17.5 Mbps

         ค่าเฉลี่ยความเร็วของอินเทอร์เน็ตแต่ละประเทศในกลุ่มอาเซียน

    1.    สิงคโปร์ ความเร็วเฉลี่ย 61.0 Mbps
    2.    ไทย ความเร็วเฉลี่ย 17.7 Mbps
    3.    เวียดนาม ความเร็วเฉลี่ย 13.1 Mbps
    4.    เขมร ความเร็วเฉลี่ย 5.7 Mbps
    5.    มาเลเซีย ความเร็วเฉลี่ย 5.5 Mbps
    6.    บรูไน ความเร็วเฉลี่ย 4.9 Mbps
    7.    พม่า ความเร็วเฉลี่ย 4.9 Mbps
    8.    อินโดนีเซีย ความเร็วเฉลี่ย 4.1 Mbps
    9.    ลาว ความเร็วเฉลี่ย 4.0 Mbps
    10.  ฟิลิปปินส์ ความเร็วเฉลี่ย 3.6 Mbps

           ทั้งนี้ สรุปได้ง่าย ๆ ว่าความเฉลี่ยของอินเทอร์เน็ตในกลุ่มประเทศอาเซียนอยู่ที่ 12.4 Mbps ค่าเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ 17.5 Mbps และประเทศสิงคโปร์ มีค่าความเร็วอินเทอร์เน็ตสูงที่สุด ส่วนประเทศฟิลิปปินส์ความเร็วเฉลี่ยน้อยที่สุด 



กสทช. ปรับ AIS-DTAC วันละกว่า 1 แสนบาท คิดค่าโทรเกินเพดาน



กสทช. สั่งปรับ AIS-DTAC วันละกว่า 1 แสนบาท หลังฝ่าฝืนคิดค่าบริการเกินอัตราขั้นสูงที่กำหนดมาโดยตลอด 2 ปี

          จากกรณีที่ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กำหนดให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ กำหนดอัตราค่าบริการของบริการประเภทเสียงในระบบ 2G ไว้ที่กรอบไม่เกิน 99 สตางค์ต่อนาที ซึ่งมีการออกประกาศบังคับไว้ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2555 ส่วนรายการส่งเสริมการขายเดิมที่มีการใช้อยู่ก่อนแล้ว ให้ใช้ได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2555 นั้น

          ล่าสุด วันนี้ (25 กรกฎาคม 2557) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า สำนักงาน กสทช. ได้ให้บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ชำระค่าปรับในอัตราวันละ 186,669 บาท ส่วนบริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC ชำระค่าปรับในอัตราวันละ 157,947 บาท เหตุที่ผ่านมา 2 ปี นับจากปี 2555 ทั้งสองบริษัทมีการคิดค่าบริการเกินอัตราขั้นสูงที่กำหนดมาโดยตลอด

          โดยก่อนหน้านี้ หลังจากปี 2555 กสทช.ตรวจพบว่ามีรายการส่งเสริมการขายที่เรียกเก็บค่าบริการเกินอัตราที่กำหนดถึง 99 รายการ แบ่งเป็นรายการส่งเสริมการขายของ AIS จำนวน 66 รายการ และ DTAC จำนวน 33 รายการ ซึ่งต่อมาสำนักงาน กสทช.ก็ได้ทำหนังสือแจ้งทั้งสองบริษัทให้ปฏิบัติตามประกาศ แต่ก็ได้รับคำชี้แจงว่า บางรายการยังไม่สามารถระงับได้ในทันที เนื่องจากมีกลุ่มลูกค้าเดิมยังใช้บริการอยู่

          กระทั่งต้นปี 2557 สำนักงาน กสทช.ก็ได้ตั้งคณะกรรมการพิจารณาศึกษาและกำหนดจำนวนค่าปรับ เพื่อกำหนดอัตราค่าปรับกรณีที่บริษัท AIS และ DTAC ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามประกาศ หลังจากนั้นสำนักงาน กสทช.ก็ได้ทำหนังสือแจ้งเตือนทั้งสองบริษัทอีกครั้ง โดยได้มีการกำหนดค่าปรับให้ทราบ และให้ชำระในวันที่กำหนด แต่ปรากฏว่าทั้งสองบริษัทต่างยังทำการฝ่าฝืนต่อไป

          ดังนั้น กสทช.จึงได้ให้บริษัท AIS ชำระค่าปรับในอัตราวันละ 186,669 บาท ส่วนบริษัท DTAC ชำระค่าปรับในอัตราวันละ 157,947 บาท ดังกล่าว





ลือ!!!! แอปเปิ้ลจะ iwatch ทั้งหมด 3 รุ่น หน้าจอ 1.6 และ 1.8 นิ้ว


 ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับ iWatch สื่อไต้หวันเผย แอปเปิลจะออก iWatch ทั้งหมด 3 รุ่น มาพร้อมหน้าจอ 2 ขนาด ได้แก่ 1.6 นิ้ว และ 1.8 นิ้ว รุ่นท็อปจะใช้หน้าจอแซฟไฟร์

        เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2557 มีรายงานจาก Taiwan's Economic Daily News ในส่วนของข่าวเศรษฐกิจประจำวัน เผยว่า แอปเปิลเตรียมออก iWatch นาฬิกาอัจฉริยะที่แอปเปิลกำลังซุ่มพัฒนามานานทั้งหมด 3 รุ่น พร้อมหน้าจอ 2 ขนาด 1.6 นิ้ว และ 1.8 นิ้ว รุ่นท็อปสุดจะใช้หน้าจอแซฟไฟร์ที่มีความแข็งแรงทนทานสูงแบบเดียวกับที่มีข่าวว่าจะใช้บน iPhone 6 นั่นเอง
        สำหรับข่าวนี้สวนทางกับข่าวลือครั้งก่อนที่ทางสำนักข่าว Reuters รายงานว่า iWatch จะมีหน้าจอสัมผัสทรงสี่เหลี่ยมขนาด 2.5 นิ้วเพียงรุ่นเดียว นอกจากนี้ยังรองรับระบบชาร์จแบตเตอรี่ไร้สาย, เซ็นเซอร์ตรวจจับชีพจร รวมถึงการทำงานบางอย่างจะต้องเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ และคาดน่าจะรองรับเฉพาะอุปกรณ์ iOS เท่านั้น
        ทั้งนี้ จากข่าวลือหลาย ๆ ข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ บอกว่าแอปเปิลจะเปิดตัว iWatch ให้ได้ยลโฉมกันในเดือนตุลาคมปีนี้ จะมีความเป็นไม่ได้มากน้อยแค่ไหน มารอลุ้นไปพร้อม ๆ กันเลย







เฟชบุ๊คเปิดตัวฟีเจอร์ facebook save เก็บโพสน่าสนใจไว้อ่านทีหลัง




       เฟซบุ๊ก (Facebook) เปิดตัว Facebook Save ฟีเจอร์ใหม่สำหรับบันทึกโพสต์หรือเนื้อหาที่น่าสนใจบนเฟซบุ๊กเก็บไว้อ่านทีหลังได้ เตรียมอัพเดทให้กับเว็บเฟซบุ๊กและแอพฯ เฟซบุ๊กเร็ว ๆ นี้

           เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2557 เฟซบุ๊กประกาศเปิดตัว Facebook Save ฟีเจอร์ใหม่ใช้สำหรับบันทึกลิงก์, สถานที่, หนัง, รายการทีวี และเพลงเก็บไว้อ่านไว้ดูทีหลังได้ รวมถึงสามารถแชร์สิ่งที่บันทึกไว้ให้กับเพื่อน ๆ ได้อีกด้วย โดยขั้นตอนการบันทึกโพสต์ที่น่าสนใจเพียงแตะที่โพสต์หรือลิงก์ที่สนใจก็จะมีเมนูแสดงให้บันทึก (Save) ลิงก์นั้น ๆ แสดงขึ้นมา หากใช้งานผ่านมือถือโพสต์ที่บันทึกไว้จะอยู่ในส่วนของแท็บ More > Saved พร้อมแสดงตัวเลขบอกจำนวนลิงก์หรือโพสต์ที่เก็บบันทึกเอาไว้ สำหรับใครที่ไม่เข้าใจว่าฟีเจอร์นี้ใช้งานอย่างไร ดูตัวอย่างจากคลิปวิดีโอด้านล่างได้เลย






DIGITAL TV

มาทำความรู้จักกับ digital tv ยุคใหม่ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่นาน  
   พบกันอีกครั้งกับ Thaiware Infographic ตอนนี้ก็ได้ออกมาอย่างต่อเนื่องถึงฉบับที่ 12 แล้ว ในครั้งนี้คิดว่าหลายคนคงคุ้นเคยกับทีวีเป็นประจำอยู่แล้ว ซึ่งนับเป็นหนึ่งสิ่งในชีวิตประจำวันที่เราต้องเจอ ทีนี้การรับชมรายการต่างๆ ก็ต้องอาศัยตัวรับสัญญาณประเภทที่ต่างกันออกไปและในตอนนี้ก็กำลังมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น โดยแต่ก่อนเราจะใช้การรับและส่งสัญญาณแบบอนาล็อกทีวี (Analog TV) ที่ให้สัญญาณและคลื่นเป็นวงกว้างติดบ้างไม่ติดบ้างก็แล้วแต่สัญญาณจะถึงหรือไม่ถึง




            แต่ตอนนี้ยุคอนาล็อกกำลังจะเข้าสู่ยุคใหม่แล้วนั่นคือยุคดิจิตอลทีวี (Digital TV) ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ใหม่ของคนรุ่นใหม่มากขึ้น และยังเปิดโลกกว้างขึ้นสำหรับคนรุ่นเก่าอีกด้วย ฉะนั้นแล้ว Infographic ฉบับนี้จะมา ทำความรู้จัก Digital TV เก่าไป ใหม่มา ก้าวถัดไปของโทรทัศน์ประเทศไทย ว่าจะมีดีกันขนาดไหนและเราควรจะเปลี่ยนไปใช้งานทีวีระบบดิจิตอลหรือไม่จากรูป Infographic ด้านล่างนี้เลย